Friends of Thai Workers Association

Friends of Thai Workers Association Supported By Office of Thai Labour Affairs in Singapore

วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เล่าสู่กันฟัง “ ชีวิตไทยในสิงคโปร์ ”

เล่าสู่กันฟัง “ ชีวิตไทยในสิงคโปร์ ”

โดย จิราวรรณ คำมั่น

นิสิตโครงการสหกิจศึกษา ณ ประเทศสิงคโปร์

สาขาวิชาพัฒนาสังคม คณะสังคมศาสตร์

มหาวิทยาลัยนเรศวร

สิงคโปร์ประเทศเล็ก ๆ ในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ มีพื้นที่ราว 697.1 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 4.19 ล้านคน ปัจจุบันสิงคโปร์พัฒนาตัวเองสู่ยุคการเน้นอุตสาหกรรมซับซ้อน และเทคโนโลยีระดับสูงนี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชากรวัยทำงานในภาคเศรษฐกิจที่มีน้อยอยู่แล้วไม่เหลือพอที่ จะไปทำงานใน อุตสาหกรรมภาคอื่นๆ อาทิ อุตสาหกรรมการผลิต อุตสาหกรรมการก่อสร้าง และการต่อเรือ ตลอดจนภาคบริการพื้นฐานอื่น ๆ

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ตลาดแรงงานไทยกลายเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายของตลาดแรงงานที่ได้รับ ความสนใจจากนายจ้างในประเทศสิงคโปร์เป็นอย่างยิ่งและในขณะเดียวกันการเดินทางเข้ามาขายแรงงานในประเทศ สิงคโปร์ก็ได้รับความนิยมจากพี่น้องชาวไทยด้วยเช่นกัน และจากประเด็นที่ว่า มีพี่น้องชาวไทยจำนวนไม่น้อย

ที่เดินทางเข้ามาขายแรงงานเป็นจำนวนมากในฉบับนี้ผู้เขียนจึงอยากหยิบยกประเด็น ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องแรงงานไทยในประเทศสิงคโปร์” มาเล่าสู่กันฟัง

ปัจจุบัน มีแรงงานไทยเดินทางเข้ามาขายแรงงานในประเทศสิงคโปร์ราว 45,000 คน โดยส่วนใหญ่แรงงานไทยเหล่านี้จะทำงานในภาคการก่อสร้างและอู่ต่อเรือโดยจะได้รับค่าจ้างเป็นรายวันวันละ 23 เหรียญ ส่วนแรงงานระดับช่างฝีมือจะได้รับค่าจ้างวันละ 28 เหรียญ และนายจ้างจะจัดที่พักที่พักไว้ให้ 2 ลักษณะ คือ

หอพัก ซึ่งจะมีสภาพทางสุขอนามัยที่ดี กล่าวคือ มีสิ่งแวดล้อมดี มีบริเวณออกกำลังกาย แต่ทว่า ที่พักเช่นนี้ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้างคือบางแห่งมักอยู่ไกลจากสถานที่ทำงานทำให้คนงานต้องเสียเวลาในการเดินทางไปทำงาน และไม่อนุญาตให้ประกอบอาหาร คนงานต้องรับประทานอาหารตามที่หอพักจัดไว้ให้

ที่พักชั่วคราว จะเป็นที่พักที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่ที่ก่อสร้างซึ่งที่พักลักษณะนี้ มีข้อดีคือ อยู่ใกล้ที่ทำงาน ไม่เสียเวลาในการเดินทาง และสามารถประกอบอาหารรับประทานเองได้ แต่ก็ยังมีข้อเสียที่ว่า ที่พักดังกล่าวคับแคบ แออัด เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ ดัดแปลงเป็นที่พักทำให้มี ลักษณะทางสุขอนามัย

ไม่ดีหากคนงานไม่ช่วยรักษาความสะอาด ปัจจุบันที่พักอาศัยในลักษณะนี้ลดน้อยลง เกือบหมดไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญของแรงงานไทยที่เดินทางเข้ามาก็คือ มักมีพื้นฐานการศึกษา

ไม่สูงนักทำให้ส่วนใหญ่มีปัญหาในเรื่องภาษาและการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น อีกทั้งมีแรงงานเป็นจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญภาวะความกดดันเรื่องหนี้สินจากครอบครัว นอกจากนี้ นายจ้างบางรายไม่ปฎิบัติตามสัญญาจ้าง หรือลักลอบจ้างคนงานโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อหลีกเลี่ยงในการจ่ายค่าธรรมเนียมจ้างคนต่างชาติ ( Levy)

ถึงกระนั้น ใช่ว่าคนไทยจะขาดซึ่งการชุมนุมหรือพบปะสังสรรค์กันเสียทีเดียว กล่าวคือ ทุกวันหยุดคนงานไทย จะมีแหล่งนัดพบกัน คือ Golden Mile Complex ซึ่งที่นี้เอง นอกจากจะเป็นศูนย์การค้าแล้ว ยังเป็นแหล่งที่คนไทยพบปะสังสรรค์กัน ส่งเงินกลับบ้าน และมีกิจกรรมอื่น ๆ ซึ่งไม่น่าอภิรมย์นัก เช่น ใช้สถานที่ดังกล่าวตั้งวงสุรา

สำนักงานแรงงานในประเทศสิงคโปร์ โดยสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้พยายามให้ความคุ้มครองดูแลแรงงานไทยในทุกด้านอย่างใกล้ชิด และทั่วถึงโดยทางสำนักงานแรงงานฯ ได้พยายามสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและแรงงานไทยโดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาจะรีบเข้าไปดำเนินการแก้ไขไกล่เกลี่ยจนเป็นที่เข้าใจ นอกจากนี้ภารกิจรองที่ทางสำนักงานแรงงานในสิงคโปร์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และได้ประสานดูแลพี่น้องแรงงานไทยมาโดยตลอด นั่นก็คือ

การให้ความรู้และการศึกษา

การศึกษาระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา โดยร่วมกับกรมการศึกษานอกโรง

เรียนและโบสถ์ไทยเชนลีจัดการศึกษาในระดับนี้ให้แก่แรงงานไทยที่ต้องการ

การศึกษาระดับอุดมศึกษา-ร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมมาธิราช จัดการศึกษา

ระดับปริญญาตรี-โท ให้แก่แรงงานไทยและแม่บ้านไทยในสิงคโปร์

การศึกษาหลักสูตรระยะสั้น เช่น หลักสูตรภาษาอังกฤษและหลักสูตรภาษาจีน

โดยเชิญครูอาสาสมัครมาสอนให้ความรู้แก่แรงงานไทยโดยไม่คิดมูลค่า หรือบางหลักสูตรหากจำเป็นก็ให้เสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด โดยเปิดสอนทุกวันอาทิตย์ ณ สมาคมเพื่อนแรงงานไทย ศูนย์การค้า Golden Mile Complex

การให้ความรู้และข่าวสารที่เป็นประโยชน์-โดยจัดทำเป็นจุลสารเพื่อนแรงงานไทย

ออกเผยแพร่ฟรี

การส่งเสริมให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์

การกีฬา – ได้ส่งเสริมสนับสนุนให้แรงงานไทยใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ด้วยการ

เล่นกีฬา เพื่อให้ห่างไกลอบายมุขและมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงโดยจัดการแข่งขัน “ฟุตบอลแรงงานคัพ” และ “ตะกร้อแรงงานคัพ” เป็นประจำทุกปีซึ่งมีแรงงานไทยและบริษัทนายจ้างให้ความสนใจเข้าร่วม การแข่งขันเพิ่มขึ้นทุกปี

ศิลปวัฒนธรรมและการแสดงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้แรงงานไทยซึ่งมีพื้นฐานความสามารถด้านศิลปวัฒนธรรม การแสดงพื้นเมืองต่างๆ ได้ใช้ความสามารถที่มีอยู่เป็นประโยชน์มีรายได้เพิ่มขึ้นและเป็นการสันทนาการ โดยได้จัดตั้ง “ คณะกลองยาวแรงงานไทย” และ “คณะหมอลำซิ่งแรงงานไทย" ออกแสดงในงานต่างๆ เป็นที่ชื่นชอบทั้งชาวไทยและชาวสิงคโปร์ที่ได้ชม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น